เพิ่มสินค้าสำเร็จ!
ไม่สามารถเพิ่มสินค้าได้!
สาระน่ารู้ข่าวสาร

โรคราแป้งและราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง

            ในหน้าหนาวมักเกิดโรคราแป้งและราน้ำค้างได้ง่าย เนื่องจากเชื้อสาเหตุสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิค่อนข้างเย็น มีความชื้นสูงหรือมีหมอกน้ำค้างจัด ลักษณะเชื้อเป็นฝุ่นผง สามารถแพร่กระจายไปกับลมได้ดี

โรคราแป้ง (Oidium sp.) เข้าทำลายทุกส่วน ทุกระยะการเจริญเติบโต เชื้อลักษณะคล้ายผงหรือฝุ่นแป้งสีขาวขึ้นปกคลุมส่วนของพืช หากเป็นมากพืชจะซีดเหลืองและแห้งตายได้ เนื่องจากสปอร์เชื้อแทงเข้าสู่เซลล์พืช ดูดกินน้ำเลี้ยงอยู่ภายใน หากเกิดโรคในระยะผลอ่อน ผลจะแคระแกรน บิดเบี้ยว  

โรคราน้ำค้าง (Peronospona  parasitica, Pseudoperonospora cubensis) พบบ่อยในพืชผัก เกิดทุกระยะการเจริญเติบโต ด้านใต้ใบเห็นสปอร์เชื้อเป็นกลุ่มผงสีเทา ต่อมาเกิดแผลสีเหลืองและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เนื่องจากเซลล์ตาย ขอบเขตแผลไม่แน่นอน แต่ค่อนข้างจะเป็นรูปเหลี่ยม หากเป็นมากใบจะเหลืองและแห้งตาย ใบหลุดร่วง พืชโทรม อ่อนแอ ชะงักการเจริญเติบโต กระทบการออกดอกและการติดผล

ป้องกันกำจัด

1.ควรปลูกให้มีระยะห่างพอสมควร ไม่เบียดแน่นจนเกินไป
2.กำจัดวัชพืช เพื่อให้อากาศถ่ายเทดี ช่วยลดความชื้น
3.บำรุงให้แข็งแรงอยู่เสมอ ใช้ แคลเคลียร์ 20 ซีซี หรือ นีโอ-ไฮแคล 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

4.นำเศษซากพืชทำลายทิ้งนอกแปลง ลดการแพร่ระบาดของโรค
5.ฉีดพ่นสาร ทุก 5-7 วัน แนะนำผลิตภัณฑ์
ป้องกัน: บิซโทร 40 กรัม หรือ เบนเอฟ 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
รักษา: แซสซี่ 10 ซีซี หรือ อินดีฟ 10 ซีซี หรือ รัสโซล 15 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานยูนิไลฟ์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ยูนิไลฟ์ สำนักงานใหญ่ โทรศัพท์ 02-399-5555 หรือ ไอดีไลน์ @unilife

แหล่งข้อมูล

: สำนักงานเกษตรอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

: กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย



วิธีสั่งของออนไลน์