ในโลกเรานี้มี ผักผลไม้ มากมายหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าแท้จริงแล้ว ผักผลไม้ นั้น สามารถแบ่งได้ออกเป็น 5 กลุ่ม ตามสีของและชนิด ซึ่งแต่ละสีก็มีคุณสมบัติและประโยชน์ที่โดดเด่นต่างกันไป รวมไปถึงสารอาหารต่างๆในผักแต่ละสีด้วยเช่นกัน
1.ผักผลไม้ สีเขียว
ผักและผลไม้สีเขียว ได้แก่ ผักโขม ตำลึง ใบยอ บวบ คะน้า บรอกโคลี กะหล่ำปลี ใบชะพลู ใบบัวบก ผักบุ้ง ผักกาดหอม แตงกวา ถั่วลันตา กวางตุ้ง ชะอม อะโวกาโด กีวี แตงกวาทั้งเปลือก ซูกินีทั้งเปลือก ถั่วแขก โหระพา ใบกะเพรา สะระแหน่ ฝรั่ง ชมพู่เขียว แอปเปิ้ลเขียว องุ่นเขียว สารสีเขียวในผักและผลไม่เหล่านี้ คือ คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) มีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดมะเร็งได้เป็นอย่างดีที ช่วยให้เซลล์ทำงานได้ดีขึ้น ผักผลไม้สีเขียวมีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี ช่วยสร้างพลังงาน ช่วยกำจัดสารตกค้างในร่างกาย ลดการสะสมของสารพิษ ลดกรดในกระเพาะอาหารบำรุงดวงตา ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส และช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย และช่วยลดอาการภูมิแพ้ต่างๆด้วย
2.ผักผลไม้ สีแดง
ผักและผลไม้สีแดงได้แก่ ฟักข้าวสุก มะเขือเทศสุก แตงโม บีตรูต สตรอ์บอร์รี หริกหวานแดง พริกชี้ฟ้าแดง ราสป์เบอร์รี ลูกตำลึง เชอร์รี ทับทิม ส้มโอแก้วมังกร ผักผลไม้สีแดงจะมีสาร ไลโคปีน (Cycopene)และ เบตาไซซีน (Betacycin)ชึ่งสารทั้ง2ชนิดนี้ มีส่วนสำคัญในการมองเห็นของเด็กๆช่วยต้านโรคมะเร็งต่างๆได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือดช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่มดลูกและปอด ป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายทำไห้ภาวะผิดปกติของเซลล์ดีขึ้น ผิวพรรณสดใส กลุ่มนี้เหมาะแก่การรับประทานสดมากกว่าทุกกลุ่ม เช่น สมูทตี้ คั้นน้ำสดๆแยกกาก หรือกินสดๆ ทำน้ำปั่นก็ชื่นใจ
3.ผักผลไม้ สีเหลืองและสีส้ม
กลุ่มสีเหลืองและสีส้ม ได้แก่ แครอท ฟักทอง ข้าวโพด มะละกอสุก มะม่วงสุก ข้าวโพดอ่อน พริกเหลือง มันฝรั่ง ส้ม สับปะรด กล้วยสุก ขนุน แคนตาลูป แตงโมเหลือง มีสารสำคัญได้แก่ ลูทีน (Lutein) ช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยให้ภาพคมชัดในการมองเห็นเวลากลางคืน และมีสาร เบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ซึ่งมีศักยภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นตัวก่อมะเร็งสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยดูแลและรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือด ช่วยบำรุงดวงตา ทำให้มองเห็นได้ดีในที่มืด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
4.ผักผลไม้ สีม่วง สีม่วงปนน้ำเงิน
ผักและผลไม้สีม่วงได้แก่ บลูเบอร์รี ข้าวโพดสีม่วง ข้าวนิล ข้าวเหนียวดำ กะหล่ำปลีม่วง มะเขือม่วง หอมแดงลูกพรุน ลูกหว้า ชมพู่มะเหมี่ยว ลูกเกด ถั่วแดง ถั่วดำ หอมหัวใหญ่สีม่วง มันสีม่วง เผือก แบล็กเบอร์รี่และ ดอกอัญชัน มีสารประเภทแอนไซโทยานินและสารโพลิฟีนอลอยู่มาก (Anthocyanin) มีคุณสมบัติทำลายสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำเงางามด้วย ามารถชะลอการเกิดโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัวได้ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มความสามารถในการมองเห็น ฯลฯ
- ผักผลไม้ สีขาว
ผักและผลไม้สีขาวได้แก่ ผักกาดขาว หัวไซเท้า ดอกผักกาด หอม กระเทียม เห็ดเข็มทอง งาขาว ธัญพืชต่างๆ สาลี่ ลูกแพร์ มังคุด แอปเปิ้ล กล้วย เงาะ ลิ้นจี่ แห้ว งาขาว กระท้อน แก้วมังกร ขิง ข่า หอมมังคุด น้อยหน่า หัวหอม ถั่วงอก เห็ด กระหล่ำดอก มะเขือเปาะ ดอกแค ลำไย ผักผลไม้สีขาวนี้จะให้กากใยสูง โดยรวมแล้วต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มปริมาณวิตามินอี ในร่างกายโดยเฉพาะกลุ่มธัญพืชให้วิตามินและโปรตีนสูงเหมาะมากๆ มีสารประกอบสำคัญหลายชนิด เช่น สารสารประกอบกำมะถัน จากกระเทียมและหอมใหญ่ ฟลาโวนอยด์หลายชนิด เพ็กติน และเส้นใยจากผลไม้หลายชนิด อัลลิซิน ซึ่งเป็นสารที่ต้านการเกิดเนื้องอก สามารถลดปริมาณคลอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรค์ ทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตในร่างกายดี มีฟลาโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งและลดการต้านยาเป็นต้น
ในหนึ่งวันควรได้รับสารอาหารที่หลากหลายครบทั้ง 5 หมู่ และในแต่ละเมนูควรมีผักเป็นองค์ประกอบ ใน 1 วันควรรับประทานผลไม้อย่างน้อย 2 ชนิด หลายๆคนนิยมบริโภควิตามินสำเร็จรูป เพราะไม่รู้ว่า วิตามินสังเคราะห์ที่นิยมบริโภคนั้นแท้ที่จริงแล้วทั้งกระปุก อาจจะมีวิตามินน้อยกว่า ผักสด1 จานใหญ่ๆซะด้วยซ้ำ วันนี้มาดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานผักผลไม้กัน
http://thairats.com