เพิ่มสินค้าสำเร็จ!
ไม่สามารถเพิ่มสินค้าได้!
สาระน่ารู้ข่าวสาร

ข้าววัชพืช มหันตภัยร้ายของชาวนาไทย

  วัชพืช คือ วัชพืชใบแคบที่มีลักษณะต่าง ๆ เหมือนต้นข้าวจนแยกไม่ออกในระยะกล้า จะแยกได้เมื่อระยะแตกกอมีชื่อเรียกตามภาษาถิ่นว่า ข้าวดีด ข้าวเด้ง ข้าวแดง ข้าวลาย ข้าวนก และข้าวหาง
  ข้าววัชพืชเป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ สร้างความเสียหายทั้งปริมาณและคุณภาพผลผลิตข้าว ทำให้เกษตรกรไทย เสียทั้งเงินและแรงงานในการกำจัด พบการระบาดมาตั้งแต่ปี 2544 ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน โดยคาดว่ามีการระบาดทั่วเขตภาคกลางจนถึงภาคเหนือ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง ชัยนาท อยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี สระบุรี พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุตรดิตถ์และพิษณุโลก นอกจากนี้ยังกระจายสู่แหล่งปลูกข้าวคุณภาพในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม หนองคาย และอุบลราชธานี สร้างความเสียหายต่อผลผลิตข้าว คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาทต่อปี

ข้าววัชพืชระบาดอย่างไร ?

  1. ปนมากับเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูก
  2. ติดมากับรถเกี่ยวข้าวและรถไถนา
  3. จากการกลายพันธุ์ของพันธุ์ข้าวที่ไม่บริสุทธิ์

ข้าววัชพืชมีลักษณะอย่างไร ?

  1. สีเปลือกเมล็ดมีสีเหลือง แดง น้ำตาลเข้ม-ดำ
  2. สีของข้าวสารเป็นสีขาว-แดง
  3. เมล็ดมีทั้งแบบที่ร่วงและไม่ร่วง
  4. เมล็ดมีทั้งแบบที่ไม่มีหางและมีหางยาว 5-10 ซม.
  5. มีเปอร์เซ็นต์การติดเมล็ดสูง 50-100 %
  6. ความสูงที่ระยะออกดอกสูงกว่าต้นข้าว 30-50 ซม.

ข้าววัชพืชทำความเสียหายต่อชาวนาไทยอย่างไร ?

  1. ทำให้สูญเสียผลผลิตข้าวตั้งแต่ 50-100%
  2. เสียต้นทุนและแรงงาน เพราะกำจัดยากมีชีวิตอยู่ในดินได้นาน 2-12 ปี
  3. เสียเวลาและโอกาส เพราะเมล็ดงอกไม่พร้อมกันการกำจัดต้องทำติดต่อกันหลายฤดู
  4. ขายข้าวไม่ได้ราคาและใช้ทำเมล็ดพันธุ์ดีไม่ได้
  5. ทำให้ข้าวสารมีสีแดง ขาวขุ่น ท้องไข่มาก คุณภาพไม่ดี 

ลักษณะและสีข้าวเปลือกและสีข้าวสาร ของข้าววัชพืชจะมีตั้งแต่สีขาวจนถึงสีแดงเข้ม

บริษัท ยูนิไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ศึกษาการกำจัดข้าววัชพืชในทุกระยะการเจริญเติบโตของข้าว จนแน่ใจว่าคำแนะนำที่ได้มีความชัดเจนปลอดภัยต่อข้าว ตลอดจนเหมาะสมกับเกษตรกร สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งมีตัวอย่างเกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จมากหน้าหลายตา ลองมาดูกันว่าวิธีกำจัดข้าววัชพืชแบบมืออาชีพของยูนิไลฟ์เค้าทำกันอย่างไร

หลักการกำจัดข้าววัชพืช

เนื่องจากเมล็ดข้าววัชพืชทนต่อภาวะน้ำท่วม สามารถอยู่ในนาได้นานโดยเมล็ดไม่ตายและสามารถงอกขึ้นมาแข่งขันกับข้าวได้อีก ดังนั้นเราจำเป็นต้องลดจำนวนเมล็ดข้าววัชพืชต่อพื้นที่ให้เหลือน้อยที่สุด โดยเร่งให้เมล็ดที่ตกอยู่ในนาให้งอกแล้วทำลาย ส่วนบางพื้นที่ก็คุมการงอกเมล็ดใต้ดินและกำจัดต้นที่งอกแล้วเพื่อลดการขยายพันธุ์ วิธีการกำจัดสามารถเลือกได้หลายแบบตามความเหมาะสมของระยะเวลาการปลูกข้าวและความรุนแรงของการระบาด ซึ่งจะเป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและการเขตกรรมดังนี้

วิธีการกำจัดข้าววัชพืช มีให้เลือกดังนี้

  1. ล่อข้าววัชพืชให้งอกแล้วกำจัด
  2. ลดการงอกเมล็ดข้าววัชพืชที่อยู่ใต้ดิน
  3. คุม-ฆ่าข้าววัชพืชหลังหว่านข้าวงอก
  4. ถอนข้าววัชพืชเมื่อข้าวอายุ 45, 60 และ 75 วัน
  5. ลูบด้วยสารเคมีข้าววัชพืชเริ่มแทงรวง

วิธีที่ 1 ล่อข้าววัชพืชให้งอกแล้วกำจัด

โดยหลังเกี่ยวข้าว จะมีตอซังและเมล็ดข้าววัชพืชร่วงหล่นในนา ให้เผาเพื่อทำลายตอซังข้าววัชพืชเพื่อป้องกันการงอกและแทงรวงภายใน 30 วัน การเผาตอซังข้าววัชพืชเป็นการช่วยกระตุ้นการงอกของเมล็ดข้าววัชพืช เมื่อเผาแล้วให้สูบน้ำเข้านาให้ท่วมผิวหน้าดินแล้วปล่อยน้ำออก ทิ้งนาไว้ 15-20 วัน เพื่อให้ข้าววัชพืชงอก แล้วพ่น กลูโฟซิเนต แอมโมเนียม 200 ซีซี + ไบโอ-ซอย 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ทำลายต้นข้าววัชพืชหรือไถทิ้ง ดังรูป

  1. ไขน้ำเข้านาให้ท่วมผิวดินแล้วปล่อยน้ำออกให้แห้ง15 วัน ข้าววัชพืชจะงอก
  2. เมื่อข้าววัชพืชงอกฉีดพ่นทำลายด้วย กลูโฟซิเนส แอมโมเนียม + ไบโอซอยแล้วเตรียมดินตามปกติ
  3. ปล่อยให้ข้าววัชพืชงอกแล้วไถทิ้ง หากพื้นที่มีการระบาดมากควรทำอย่างน้อย 2 ครั้ง

ข้อดี     ประหยัดต้นทุนและลดการระบาดได้มากกว่า50%

ข้อเสีย   ใช้เวลานาน 20-25 วัน เพราะข้าววัชพืชงอกไม่พร้อมกันเนื่องจากเมล็ดอยู่ในระดับลึกไม่เท่ากัน

วิธีที่ 2 ลดการงอกเมล็ดข้าววัชพืชที่อยู่ใต้ดิน

เหมาะกับพื้นที่ต้องการปลูกข้าวทำได้โดยหลังจากไถตีดินช่วงลูบเทือก หยด หรือ พ่นลงนา

สูตรที่ 1  บีโฟ 1 ลิตร +ไบโอ-ซอย 250 กรัม + คัพเวอร์กรีน 250 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ให้ทั่วพื้นที่ 2 ไร่

สูตรที่ 2 เพรทิลาคลอร์ 1 ลิตร +ไบโอซอย 250 กรัม+คัพเวอร์กรีน 250 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตรให้ทั่วพื้นที่ 2 ไร่ 

จากนั้นขังน้ำไว้อย่างน้อย 5 วัน แล้วหว่านข้าวงอกตามปกติ  ผสมสารแล้วพ่นให้ทั่วนาด้วยเครื่องพ่นลากสาย หรือเครื่องสูบโยกสะพายหลัง หากมีข้าววัชพืชระบาดรุนแรงอาจใช้สารอัตราสูงกว่านี้ได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อข้าวงอก เพื่อประหยัดแรงงาน อาจใช้ ไบโอ-ซอย โรยในอัตรา 1,000 กรัมต่อ 5 ไร่ แล้วหยด บีโฟ 1 ลิตร + คัพเวอร์ 250 ซีซี ต่อน้ำ20-40 ลิตรต่อพื้นที่ 2 ไร่ ระดับน้ำในนาไม่เกิน 15 ซม.

วิธีการที่ 3 คุม-ฆ่าข้าววัชพืช หลังหว่านข้าวงอก

ระยะที่ 1 คุมข้าววัชพืช ระยะหลังหว่านข้าวงอก 0-4 วัน ใช้ บิวทาคลอร์ 150-200 ซีซี + ซีวิว 20 ซีซี + ฟิพเปอร์ 10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ขังน้ำในนาเมื่อข้าวอายุ 7-10 วัน นาน 15 วัน ใช้กับนาข้าวที่สภาพพื้นที่ใหญ่พื้นที่ไม่สม่ำเสมอ

รูปที่ 1 หลังหว่านข้าวงอก 1 วันพ่น บิวทาคลอร์ (คุมเลน)1 ลิตร พ่นคุมเลนได้ 4 ไร่

รูปที่ 2 หลังพ่น บิวทาคลอร์ 5 วันข้าวโตดีมากเพราะใช้ ซีวิวและไม่พบหน่อวัชพืชที่ผิวดิน

รูปที่ 3 ขังน้ำเมื่อข้าวอายุ 10 วันข้าวเขียวโตได้ดีมาก ไม่มีปัญหาข้าวตายจากน้ำท่วมยอดเพราะ ซีวิว ช่วยให้ข้าวโตเร็ว

หมายเหตุ : บิวทาคลอร์ สูตรเฉพาะของยูนิไลฟ์ เท่านั้น (ข้าวปลอดภัยไม่เหมือนใคร)

ระยะที่ 2 คุม-ฆ่าข้าววัชพืช ระยะข้าวอายุ 5-10 วัน พีโพนา70 150 ซีซี + บีโฟ 150 ซีซี + ซีวิว 20 ซีซี + ฟิพเปอร์ 10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ขังน้ำหลังพ่นสารนาน 15 วัน วิธีนี้ลดการงอกและการทำลายหน่อข้าววัชพืชได้ดี เหมาะกับนาชลประทาน

รูปที่ 1 หลังหว่านข้าวงอก 5-10 วันพ่นสาร คุม-ฆ่า หญ้า

รูปที่ 2 หลังพ่นสาร คุม-ฆ่า หญ้าไม่เกิน 1 วัน ไขน้ำเข้านาแล้วขังน้ำในนามากกว่า 15 วัน

รูปที่ 3 คุณบุปผา สดใสใช้สูตรนี้แล้วได้ผลดีมากค่ะ

 

วิธีที่ 4 ถอนข้าววัชพืชเมื่อข้าวอายุ 45 วัน 60 วัน และ 75 วัน ข้าววัชพืชในระยะแรกจะงอกช้ากว่าข้าว  แต่หลังจากข้าวเริ่มแตกกอ-ออกรวง ข้าววัชพืชจะเจริญเติบโตดีกว่าและออกรวงก่อน ในช่วงนี้เกษตรกรจะถอนต้นในกรณีพบไม่มาก ไม่แนะนำให้ตัดยอดข้าววัชพืชเพราะจะทำให้แตกยอด ออกรวงมากกว่าเดิม

ข้อเสีย เสียต้นทุนสูง เปลืองแรงงานและเวลามาก

วิธีที่ 5 ลูบด้วยสารเคมีช่วงข้าววัชพืชเริ่มแทงรวง ระยะข้าววัชพืชเริ่มแทงรวงจะมีความสูงกว่าข้าวปลูก ให้ลูบด้วย กลูโฟซิเนต แอมโมเนียม  1 ลิตร + คัพเวอร์กรีน 500 ซีซี ผสมน้ำ 1.5-2 ลิตร ลูบได้พื้นที่ 10-12 ไร่

ขั้นตอนการลูบข้าววัชพืช  1. ชุบผ้าพันไม้ให้เปียกอย่าให้น้ำยาหยด 2. ลูบไปตามยอดหรือรวงข้าววัชพืชระวังอย่าให้ถูกต้นข้าวและใบข้าว 3. ข้าววัชพืชจะแท้งรวงแห้งและต้นตาย วิธีนี้เมล็ดข้าววัชพืชก็ไม่มีร่วงฤดูหน้า การระบาดของข้าววัชพืชก็จะลดลง (เลือกลูบช่วงน้ำค้างแห้ง)

 

ขอขอบคุณท่านสมาชิกทุกท่านที่ร่วมพิสูจน์ “เทคนิคการกำจัดข้าววัชพืช” และสำหรับสมาชิกยูนิไลฟ์ที่สนใจ
ติดต่อขอคำแนะนำได้ที่คลังสินค้ายูนิไลฟ์ใกล้บ้านท่าน หรือ คุณณิชชารีย์ ปลาบู่ทอง โทรศัพท์ 098-7954991
บริษัท ยูนิไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
589/30-31 อาคารเซ็นทรัลซิตี้ ทาวเวอร์ 1 ออฟฟิศ ชั้น7 ถนนเทพรัตน แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
โทร. (02) 745-7100 แฟ็กซ์ : (02) 745-7109 / Call Center (02) 399-5555
report.unilife.co.th  , E-mail : unilife@clickta.com



วิธีสั่งของออนไลน์